บริษัทฯ มีการจัดซื้อสินค้าและจัดจ้างบริการจากคู่ค้าและผู้รับเหมาในกิจกรรมหลักของการดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และงานที่สนับสนุนการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้น คุณภาพสินค้าและการทำงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาจึงส่งผลกระทบโดยตรงทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ การดำเนินงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีความเสี่ยงด้าน ESG สูง อาจเกิดการละเมิดกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ หรือส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น การจัดการของเสีย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงบริษัทฯ อาจมีส่วนสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนของแรงงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาได้หากไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่ดี ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ได้ นอกเหนือจากคุณภาพของงานและระยะเวลาส่งมอบงานที่มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจโดยตรงต่อบริษัทฯ
การบริหารจัดการคู่ค้าและผู้รับเหมาอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้บริษัทฯ ลดความเสี่ยงและผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่อุปทานจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และช่วยเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทฯ ที่ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การคัดกรองและพัฒนาคู่ค้าและผู้รับเหมาจะช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของคู่ค้าและผู้รับเหมาให้สนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ และเติบโตร่วมกันต่อไปในระยะยาว
บริษัทฯ ได้แจ้งคู่ค้าและผู้รับเหมาทุกรายที่อยู่ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (critical supplier) ให้ทราบถึงจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) และคู่มือการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement Manual) กลุ่มบริษัทอมตะ ตามแนวทางการบริหารจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมให้คู่ค้าตระหนักถึงความสำคัญและเป็นแนวปฏิบัติให้แก่คู่ค้าในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่ซื่อสัตย์ ยุติธรรม และโปร่งใส โดยครอบคลุมประเด็นดังนี้
ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ, ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความถูกต้องและความซื่อสัตย์, ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น, เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้
การจ้างงานที่ถูกต้องและปฏิบัติตามกฎหมาย, การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและไม่มีการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับทุกรูปแบบ
ปฏิบัติตามกฎหมายด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย, จัดหาอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยให้เหมาะสมกับลักษณะงาน, บันทึกสถิติการเจ็บป่วยในงานและความรุนแรงรวมไปถึงมีการสื่อสารให้เข้าใจและปฏิบัติตาม
มีช่องทางการรับข้อร้องเรียนจากผู้มีส่วนได้เสียและคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดจากกระบวนการทำงาน
ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้องบังคับเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม, มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการทำงาน, ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยในปี 2566 คู่ค้าสำคัญ (critical supplier) ร้อยละ 100 จากคู่ค้าสำคัญทั้งหมดได้ส่งแบบตอบรับรับทราบจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าของอมตะ และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตาม คู่มือการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement Manual) ของกลุ่มบริษัทอมตะ และมีผลการดำเนินการตามแนวทางดังนี้
บริษัทฯ พิจารณาระบุกลุ่มคู่ค้าสำคัญ (critical supplier) จากกลุ่มคู่ค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ คู่ค้าที่ทำธุรกิจโดยตรงกับบริษัท (tier 1 supplier) และคู่ค้าที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทฯ โดยตรง (non-tier 1 supplier) และทำการวิเคราะห์เพื่อระบุคู่ค้าสำคัญโดยใช้ปัจจัยดังต่อไปนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา
ในปี 2566 บริษัทฯ มีคู่ค้าและผู้รับเหมาที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (tier-1 supplier) ทั้งหมด 654 ราย ที่มีการทำธุรกิจกับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์พบว่ามีคู่ค้าและผู้รับเหมาที่อยู่ในกลุ่มคู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ โดยตรง (critical tier-1 supplier) จำนวน 63 ราย ซึ่งมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างคิดเป็นร้อยละ 89 ของมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด จำแนกเป็นคู่ค้าสำคัญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าจำนวน 13 ราย และคู่ค้าสำคัญในธุรกิจสาธารณูปโภคและการบริการจำนวน 50 ราย คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มธุรกิจหลักที่ร้อยละ 14 และ 86 ตามลำดับ ส่วนคู่ค้าสำคัญที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทฯ โดยตรง (critical non-tier 1 supplier) มีจำนวน 24 ราย
บริษัทฯ มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้าโดยให้ความสำคัญกับกลุ่มคู่ค้าสำคัญเป็นลำดับแรกและคู่ค้าใหม่ทั้งหมด โดยใช้แบบประเมินตนเอง (Self-Assessment Questionnaire: SAQ) ที่ครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และจัดกลุ่มคู่ค้าที่มีความเสี่ยงในระดับต่าง ๆ คู่ค้าที่มีความเสี่ยงในระดับปานกลางถึงสูง (คะแนนประเมินตนเองน้อยกว่า 80%) บริษัทฯ จะมีการไปตรวจเยี่ยม (site visit) และตรวจประเมินที่สถานประกอบการ (ESG audit) เพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการประเมินคุณภาพคู่ค้าประจำปีโดยฝ่ายจัดซื้อและหน่วยงานที่เป็นผู้ใช้สินค้าหรือบริการ แต่มีความถี่แตกต่างกันตามระดับความเสี่ยงของคู่ค้า สำหรับคู่ค้าที่มีความเสี่ยงระดับสูง คู่ค้าต้องจัดทำแผนมาตรการป้องกันแก้ไข โดยบริษัทฯ จะช่วยให้คำแนะนำในการจัดทำแผนการปรับปรุงและพัฒนาข้อบกพร่องต่าง ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายให้คู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ โดยตรง และคู่ค้าใหม่ทั้งหมดได้รับการประเมินความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านความยั่งยืนในการดำเนินงานซึ่งประกอบด้วยประเด็นความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล ในปี 2566 บริษัทฯ ได้ทำการประเมินความเสี่ยงจากคู่ค้าและผู้รับเหมาในกลุ่มคู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ โดยตรง (critical tier-1 supplier) ทั้งหมด 63 ราย (ร้อยละ 100) และคู่ค้าใหม่ทั้งหมด 52 ราย (ร้อยละ 100) เป็นไปตามเป้าหมาย พบว่าไม่มีคู่ค้าสำคัญรายใดมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในระดับสูง
บริษัทฯ กำหนดให้คู่ค้าสำคัญทุกรายที่ผ่านการประเมินความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและด้านความยั่งยืนด้วยวิธีประเมินตนเอง (Self-Assessment Questionnaire: SAQ) แล้ว จะได้รับการตรวจประเมินในสถานประกอบการครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (On-site ESG Audit) ต่อไป โดยมีรายละเอียดและความถี่ในการตรวจประเมินตามระดับความเสี่ยงของคู่ค้า ในกรณีที่คู่ค้าสำคัญมีระดับความเสี่ยงสูง จะต้องถูกตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการทันที คู่ค้าสำคัญที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางจะได้รับการตรวจประเมินปีละ 1 ครั้ง และคู่ค้าสำคัญที่มีความเสี่ยงต่ำจะได้รับการตรวจประเมินทุก 2 ปี ตามข้อกำหนดและรายการที่บริษัทฯ กำหนดไว้และมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) ซึ่งแนวทางในการตรวจประเมินคู่ค้า กระทำโดยการตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้องจากคู่ค้าและการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโดยคณะทำงานการจัดซื้อจัดจ้างของกลุ่มบริษัทอมตะ
ในปี 2566 บริษัทฯ มีคู่ค้าสำคัญที่ต้องถูกตรวจประเมิน ณ สถานประกอบการตามเกณฑ์ที่กำหนดจำนวนรวม 22 ราย ซึ่งบริษัทฯ สามารถดำเนินการตรวจประเมินได้ครบทั้ง 22 ราย (ร้อยละ 100)
นอกจากนี้บริษัทฯ กำหนดให้คู่ค้าและผู้รับเหมาที่ดำเนินธุรกิจกับบริษัทฯ ทุกรายได้รับการประเมินผลงานประจำปีและประเมินความสัมพันธ์ของผู้ขายสินค้า/บริการรายนั้น ๆ กับบริษัทฯ หลังจากการดำเนินการเสร็จสิ้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งต่อไปด้วย
บริษัทฯ มีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงสำหรับคู่ค้าแต่ละราย และจัดให้มีการพัฒนาคู่ค้าเพื่อลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงและลดผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าวให้กับคู่ค้าและผู้รับเหมา ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังไม่มีการยุติการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าและผู้รับเหมาที่ได้รับการประเมินแต่อย่างใด (ร้อยละ 0)
บริษัทฯ กำหนดแนวทางในการพิจารณาคัดเลือกคู่ค้าใหม่ประกอบด้วยกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นและผลงานที่ผ่านมาของคู่ค้าและผู้รับเหมาก่อนการจัดซื้อจัดจ้าง ว่ามีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ และกำหนดให้คู่ค้าใหม่ทุกรายต้องผ่านการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG risk) โดยใช้แบบฟอร์มประเมินตนเองของคู่ค้า (Self-Assessment Questionnaire : SAQ) ก่อนขึ้นทะเบียนคู่ค้าใหม่ หากผลคะแนนผ่านเกณฑ์และไม่พบประเด็นความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล จะให้คู่ค้าใหม่ลงนามรับทราบจรรยาบรรณธุรกิจ (Supplier Code of Conduct) แล้วบันทึกชื่อคู่ค้าลงในทะเบียนคู่ค้าใหม่ แต่หากคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินหรือมีความเสี่ยง คู่ค้าต้องจัดทำมาตรการป้องกันหรือแก้ไขและแผนการตรวจติดตามที่ชัดเจนมาเสนอ จนคะแนนอยู่ในระดับที่ยอมรับได้จึงจะได้รับการขึ้นทะเบียนคู่ค้าใหม่
ปี 2566 บริษัทฯ มีคู่ค้าใหม่จำนวน 52 รายโดยผ่านระบบการคัดเลือกตามกระบวนการที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ 100 ของคู่ค้ารายใหม่
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมกับคู่ค้า เพื่อส่งเสริมสภาพคล่องด้านการจัดการเงินสดและการบริหารเงินทุนทั้งของคู่ค้าและของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณาถึงข้อปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงและข้อผูกพันที่มีต่อคู่ค้าด้วยความเสมอภาค บริษัทฯ มีนโยบายหรือมาตรการในการตรวจสอบคัดกรองคู่ค้าของกลุ่มบริษัทฯ เช่น ผู้ผลิต ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมาต่าง ๆ ด้วยแนวทางหรือมาตรฐานเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยบริษัทฯ มีระเบียบปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้การคัดเลือกคู่ค้ามีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และประกาศให้ถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
การจ่ายเงินให้คู่ค้า บริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าโดยยึดหลักความเป็นธรรมและความเหมาะสม เพื่อสร้างโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ กำหนดนโยบายระยะเวลาสินเชื่อทางการค้า (Credit Term Policy) สำหรับระยะเวลาการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้การค้าภายในระยะเวลา 30-50 วัน โดยบริษัทฯ ใช้วิธีการจ่ายเงินผ่านช่องทางธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คู่ค้ามีความเชื่อมั่นและสามารถรับเงินได้ตามกรอบเวลาของนโยบายที่บริษัทกำหนดได้ แต่อย่างไรก็ตามระยะเวลาการจ่ายเงินอาจไม่เป็นไปตามนโยบาย เนื่องจากข้อจำกัดของแต่ละธุรกิจและปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ประเภทธุรกิจของสินค้าและการให้บริการ ระยะเวลาตามสัญญากับคู่ค้า คุณภาพมาตรฐานของสินค้าและการให้บริการ เป็นต้น ต้น ข้อมูลระยะเวลาการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้การค้าเฉลี่ย (Average Account Payables Days) ของบริษัทฯ ในส่วนของสินค้าและการให้บริการมีรายละเอียดดังนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาคู่ค้าและผู้รับเหมาในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะคู่ค้าสำคัญในธุรกิจสาธารณูปโภคและการบริการ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความเสี่ยงในการละเมิดกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาให้ดียิ่งขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทฯ เช่น สนับสนุนให้คู่ค้าและผู้รับเหมาที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการหลักให้แก่บริษัทฯ มีการพัฒนาในกระบวนการดำเนินธุรกิจและได้รับการรับรองระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 9001 ISO 14001 ISO 17025 และ OSHA 18000 เป็นต้น
+84 251 3991 007 (South)
+84 203 3567 007 (North)
+85 620 5758 0007
© AMATA CORPORATION PCL. All rights reserved. Web by Toneyes