ระยะทางจาก | ชลบุรี | ระยอง |
สนามบินสุวรรณภูมิ | 55 กม. | 108 กม. |
สนามบินอู่ตะเภา | 97 กม. | 45 กม. |
ท่าเรือแหลมฉบัง | 52 กม. | 23 กม. |
กรุงเทพมหานคร | 57 กม. | 112 กม. |
ศาลาว่าการเมืองพัทยา | 67 กม. | 29 กม. |
สำนักงานเทศบาลเมืองศรีราชา | 33 กม. | 29 กม. |
ศาลากลางจังหวัดชลบุรี | 12 กม. | 48 กม. |
ประเภทลูกค้า | อุตสาหกรรมเพื่อตลาดภายในประเทศ | อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก |
อุตสาหกรรมที่ควรลงทุน | EV (ยานยนต์ไฟฟ้า) ธุรกิจดิจิตัล วิทยาการหุ่นยนต์ ธุรกิจการบิน ชีวเคมีภัณฑ์ อาหาร เภสัชกรรม ผลิตภัณฑ์อาหาร การบริการ งานวิจัยและพัฒนา การออกแบบ งานวิศวกรรม ฯลฯ | ธุรกิจเหล็กกล้า โลหะ ยาง พลาสติค เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า บริโภคภัณฑ์ อาหาร |
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นโครงการริเริ่มเพื่อการพัฒนาตามพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทันสมัยในภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจและความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทย พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมเบาที่มีมานาน
ด้วยการสนับสนุนจากภาคเอกชนรัฐบาลจึงได้วางแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น การขยายสนามบินอู่ตะเภา ระยอง-พัทยาและเมืองศูนย์กลางการบิน การขยายท่าเรือมาบตาพุด การขยายท่าเรือแหลมฉบัง รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และนอกจากการสนับสนุนจากทางภาคเอกชนแล้ว รัฐบาลยังมีแผนการสร้างเมืองอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อุทยานเทคโนโลยี และสาธารณูปโภคอื่นๆ
รัฐบาลต้องการดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การบินอวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีทางการเงิน วิทยาการหุ่นยนต์ และการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความซับซ้อน เป็นต้น
ทำเลยุทธศาสตร์อยู่ใจกลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 10 ชาติ รวมถึงมีตลาดผู้บริโภค 660 ล้านคน ถือเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอาเซียนด้วยจำนวนประชากร 69 ล้านคน
บทบาทของสองหน่วยงานนี้คือส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทย โดยให้ข้อมูล บริการและสิทธิประโยชน์ รวมถึงติดตามนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศ BOI มีวัตถุประสงค์โดยรวมคือการแจ้งผู้ลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับกิจกรรมและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุนที่เหมาะสมตรงกับสิทธิประโยชน์ ในขณะที่ กนอ.มุ่งเน้นไปที่นิคมอุตสาหกรรม โดยได้รับมอบหมายโดยตรงให้บริหารจัดการโรงงานและนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ.และนิคมอุตสาหกรรมที่ผู้พัฒนานิคมเอกชนร่วมพัฒนาด้วย กนอ.จึงต้องกำหนดกฎหมายและข้อบังคับพิเศษที่นิคมอุตสาหกรรมและผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตาม
รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์และกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อนักลงทุนมากมายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดินโดยทุนต่างชาติ 100%
BOI ได้มุ่งเน้นมอบสิทธิประโยชน์ขั้นสูงให้ภาคนวัตกรรม เช่น วิทยาการหุ่นยนต์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมด้านโทรคมนาคม พลาสติกและปิโตรเคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมด้านอาหาร เป็นต้น เพื่อสนับสนุนนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ 20 ปีของรัฐบาลที่จะเร่งการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นอกจากสิทธิประโยชน์การลงทุนขั้นพื้นฐาน เช่น การยกเว้นภาษีอากรแล้ว BOI ยังแนะนำสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงรายการมาตรการการส่งเสริมเพื่อกระตุ้นการลงทุนที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน
เนื่องจากทั้ง อมตะซิตี้ ชลบุรี และ อมตะซิตี้ ระยอง ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ธุรกิจของคุณอาจอยู่ในเกณฑ์ได้รับสิทธิประโยชน์และเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือการออกวีซ่าพิเศษโดยคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ EEC
เมืองชายฝั่งทะเลที่มีประชากร์ประมาณ 300,000 คน เป็นสถานที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ
+84 251 3991 007 (South)
+84 203 3567 007 (North)
+85 620 5758 0007
© AMATA CORPORATION PCL. All rights reserved. Web by Toneyes