“อมตะ วีเอ็น” ฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งความสำเร็จในเวียดนาม ตอกย้ำความเป็นผู้นำเมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ  ก้าวสู่เมืองอัจฉริยะ มาตรฐานระดับโลก ดันเวียดนามขึ้นแท่น ศูนย์กลางการผลิตและการลงทุนระดับสากล  ร่วมผลักดันเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ด้วยพื้นที่รองรับลงทุน กว่า 18,750 ไร่   สร้างเม็ดเงินลงทุนสะสมกว่า 20,000 ล้านบาท จ้างงานกว่า 60,000 คน ผ่าน 4 นิคม พื้นที่ศักยภาพ อมตะซิตี้ เบียนหัว, อมตะซิตี้ ลองถั่น, อมตะซิตี้ ฮาลอง และ นิคมอุตสาหกรรมกว่างจิ

Photograph: Aerial view on Amata City Bien Hoa, Dong Nai Province, Vietnam

      นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น  จำกัด (มหาชน)   หรือ AMATAV ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา กลุ่มอมตะมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเวียดนาม ในการดึงดูดการลงทุนจากนักทุนทั่วโลก เพื่อเป็นฐานการผลิตในประเทศเวียดนาม โดยการลงทุนและพัฒนา ให้นิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งก้าวสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ  เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลเวียดนามและนักลงทุน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย และการให้บริการอย่างครบวงจร รองรับการเติบด้านการลงทุนที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

     นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่การลงทุนของ อมตะ ให้เป็น 'เมืองอัจฉริยะ' ที่ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการผลิตเท่านั้น แต่ยังมีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ และเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ที่เข้ามาทำงานและอยู่อาศัย

      “ตลอด 30 ปีแห่งความสำเร็จของอมตะ วีเอ็น สะท้อนถึงการสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในเวียดนาม ภายใต้ปรัชญา "ALL WIN" มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกันของทุกภาคส่วน ทั้งนักลงทุน ชุมชนท้องถิ่น และภาครัฐ ซึ่งไม่เพียงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ต่อการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมอัจฉริยะในระยะยาวที่ส่งเสริมการลงทุนระดับโลก และคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตร่วมกันอย่างมั่นคงต่อไป”

Photograph: Mrs. Somhatai Panichewa, Chief Executive of Amata VN Public Company Limited, giving the speech at the 30th Anniversary Celebration Event

     สำหรับในทุกชุมชนที่ ทางอมตะ วีเอ็น ได้เข้าไปดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายคือการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน สะท้อนให้เห็นในชื่อ "อมตะ" ซึ่งมีความหมายว่า "นิรันดร์" ในภาษาสันสกฤต นางสมหะทัย กล่าว

    ปัจจุบัน อมตะมีพื้นที่พัฒนาเพื่ออุตสาหกรรมและบริการเชิงพาณิชย์มากกว่า 18,750 ไร่ รองรับบริษัทต่างชาติชั้นนำกว่า 200 แห่ง และมีการลงทุนกว่า 6,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 20,000 บาท รองรับแรงงานกว่า 60,000 ตำแหน่ง และสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อการผลิต ได้มีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบบำบัดน้ำเสีย การจัดหาพลังงานที่มีเสถียรภาพ วางโครงข่ายโทรคมนาคมที่แข็งแกร่ง และการเปลี่ยนผ่านสู่ พลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะนำมาใช้ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต   กลุ่มอมตะพร้อมผลักดันให้เวียดนามก้าวสู่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ควบคู่ไปกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยขยายแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลครบวงจร รองรับการเชื่อมต่อของภาคอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัลพร้อมยกระดับมาตรฐาน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ให้เป็นแนวปฏิบัติหลัก เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Carbon ของเวียดนาม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

      อย่างไรก็ดี นิคมอุตสาหกรรมของอมตะตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ เชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมสะดวก ใกล้เมืองสำคัญและท่าเรือหลัก ซึ่งมีบริษัทระดับโลกจาก Global Fortune 500 (2023) และแบรนด์ชั้นนำ เข้าตั้งโรงงานในนิคมฯ อาทิ Nestlé, PepsiCo, Swarovski, Shiseido, Brother, Tiger, Kao, Jinko Solar, Autoliv, Foxconn, YKK และ Kingfa เป็นต้น

**********************************

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)

E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ฝ่ายการตลาด บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน):

E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.